คำศัพท์ใหม่ๆที่เราได้ยินในทุกวันนี้ มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร? และใครเป็นผู้ริเริ่ม? คำตอบก็คือ มนุษย์เราเองนี้แหละที่เป็นผู้คิดค้นคำศัพท์แปลกๆเหล่านั้นขึ้นมา ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของภาษาล้วนมาจาก การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย เทคโนโลยี เพศ อายุ และที่สำคัญ Social media เริ่มเข้ามามีบทบาทกับเรามากยิ่งขึ้น ทุกการติดต่อสื่อสารจึงกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดาย คำศัพท์วัยรุ่นได้แผร่หลายไปในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นเราควรเรียนรู้คำศัพท์เหล่านี้ไปพร้อมๆกัน ศึกษาเรียนรู้แต่ไม่ควรนำไปใช้เพราะจะทำให้ภาษาไทยของเราวิบัติ เราควรอนุรักษ์ภาษาไทยของเราให้สืบทอดจนสู่คนรุ่นหลังต่อไป
เผือก = ยุ่งเรื่องชาวบ้าน
หลัว = สามี
นาจา = นะจ๊ะ
สายเปย์ = ชอบจ่ายให้
ลั่น = ขำดัง
มองบน = ระอาใจ ไม่พอใจ
งานดี หรือ งานละเอียด = ดีมาก
คือร่ะ = คืออะไร
ยิ้มอ่อน = ยิ้มน้อย ๆ แบบเอ็นดู
ยิ้มแรง = ยิ้มกว้างเต็มที่ แบบดีใจ ไม่ปกปิด
อิจ = อิจฉา
สะใภ้มโน = สาวๆ ที่คิดอยากเป็นแฟนหรือเป็นสะใภ้บ้านหนุ่มหล่อ
มองแรง = มองแบบจิก ๆ เขม้นมอง
เก้ว = เท หรือ หนี
ตุ้บ = หวังอะไรแล้วไม่ได้ แบบผิดหวัง
โป๊ะ หรือ บ้ง = หน้าแตก
ห่าน = คำหยาบ (animal)
สึด = คำหยาบ (animal)
ยิ้ม = นัดไปยิ้ม (มีเพศสัมพันธ์)
ตํา = ตาม เช่น ต้องไปซื้อตามบ้าง พูดสั่นๆ แบบวัยรุ่นก็คือ ต้องไปตำบ้าง
แม่ก็คือแม่ = ตัวแม่ ตัวท็อป ทำอะไรก็ดีไปหมด
ลำไย = เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มรำคาญในความเรื่องเยอะ หรือคนที่ทำอะไรยืดยาด ช้า สรุปแล้ว ลำไย คือคำจิกกัดคนที่ทำตัวเชื่องช้าได้น่ารำคาญ
กล้วย = ง่าย
เงาะ = งง
แตงโม = อ้วน
ส้ม = ยุ่งเรื่องคนอื่น
มะม่วง = โง่
ละมุด = เนียน
เชอร์รี่ = กะหรี่
อ้อย = แรด,อ่อย
มะนาว = มโน
เท = โดนทิ้ง
นก = อ่อยเขาแต่เขาไม่เอา
ที่มา : ศัพท์วัยรุ่น ฮิตในโลกออนไลน์
เผือก = ยุ่งเรื่องชาวบ้าน
หลัว = สามี
นาจา = นะจ๊ะสายเปย์ = ชอบจ่ายให้
ลั่น = ขำดัง
มองบน = ระอาใจ ไม่พอใจ
งานดี หรือ งานละเอียด = ดีมาก
คือร่ะ = คืออะไร
ยิ้มอ่อน = ยิ้มน้อย ๆ แบบเอ็นดู
ยิ้มแรง = ยิ้มกว้างเต็มที่ แบบดีใจ ไม่ปกปิด
อิจ = อิจฉา
สะใภ้มโน = สาวๆ ที่คิดอยากเป็นแฟนหรือเป็นสะใภ้บ้านหนุ่มหล่อ
มองแรง = มองแบบจิก ๆ เขม้นมอง
เก้ว = เท หรือ หนี
ตุ้บ = หวังอะไรแล้วไม่ได้ แบบผิดหวัง
โป๊ะ หรือ บ้ง = หน้าแตก
ห่าน = คำหยาบ (animal)
สึด = คำหยาบ (animal)
ยิ้ม = นัดไปยิ้ม (มีเพศสัมพันธ์)
ตํา = ตาม เช่น ต้องไปซื้อตามบ้าง พูดสั่นๆ แบบวัยรุ่นก็คือ ต้องไปตำบ้าง
แม่ก็คือแม่ = ตัวแม่ ตัวท็อป ทำอะไรก็ดีไปหมด
ลำไย = เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มรำคาญในความเรื่องเยอะ หรือคนที่ทำอะไรยืดยาด ช้า สรุปแล้ว ลำไย คือคำจิกกัดคนที่ทำตัวเชื่องช้าได้น่ารำคาญ
กล้วย = ง่าย
เงาะ = งง
แตงโม = อ้วน
ส้ม = ยุ่งเรื่องคนอื่น
มะม่วง = โง่ละมุด = เนียน
เชอร์รี่ = กะหรี่
อ้อย = แรด,อ่อย
มะนาว = มโน
เท = โดนทิ้ง
นก = อ่อยเขาแต่เขาไม่เอา
สะเด้ย = คำหยาบ (animal เอ้ย )
หัวร้อน หมายถึง อารมณ์ร้อนนก หมายถึง วืดหรือชวดอิอิ หมายถึง เสียงหัวเราะโดนเท หมายถึง โดนทิ้งเตง หมายถึง ตัวเองบ่องตง หมายถึง บอกตรงๆอัลไล หมายถึง อะไรเมพขิงๆ หมายถึง เทพจริงๆตะมุตะมิ หมายถึง น่ารักน่าเอ็นดู
ไม่สนิทอย่าติดว้าว
นับเป็นวลีเปิดปี 2560 เลยทีเดียว เรื่องมีอยู่ว่า มีการหลุดภาพแชทเฟซบุ๊กชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่เกิดความไม่พอใจเพื่อนในเฟซบุ๊กที่มากดปุ่ม Wow ในรูปของเขา โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้จักกันมาก่อนเลย ชายหนุ่มจึงตอบไปว่าถ้าไม่สนิทกัน ก็ไม่ควรมาติด Wow แบบนี้นะ จึงเป็นวลีฮิตที่ชาวเน็ตไทยแลนด์ เอาไปล้อเลียนกันอย่างสนุกสนาน
ได้หมดถ้าสดชื่น
ที่มาคงคำนี้ยังไม่แน่ชัด บ้างก็ว่ามาจากกลุ่มเด็กแวนซ์ ที่ชอบไม่ใส่หมวกกันน็อค ชอบขับรถให้ลมตีหน้าเพื่อความสดชื่น หรืออาจจะมาโด่งดังจากเพลงติ๊ดของ DJ.PAP.HUMNOY โดยเนื้อหาของเพลงไม่มีอะไรเลยนอกจากคำว่า “ได้หมดถ้าสดชื่น”
ตัวอย่างสถานการณ์ : มักใช้ในกรณีที่จะตอบกลับเพื่อนด้วยคำว่า “ยังไงก็ได้” หรือ “ได้หมด” และต่อท้ายด้วยคำว่า “ถ้าสดชื่น” เพื่อเปรียบเสมือนว่า จะยังไงก็ได้ขอให้มันดี ให้โอเคก็พอ หรือจะใช้เฉยๆ แบบไม่มีความหมายให้มันดูคล้องจองเกร๋ๆ ก็ได้นะแกร๊
ตั่งต่าง
แปลงมาจากคำว่า “ต่างๆ นานา” โดยการร่นเสียงเปลี่ยนคำให้กระชับสั้นมากยิ่งขึ้น เพื่อความเริ่ดไปอีก 45 สเต็ป มักใช้บ่อยในการเขียนคอนเมนต์ลงในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กต่างๆ
ไอ แฮฟ สติ
และแน่นอนการมาของรายการ The Face ย่อมเป็นจุดกำเนิดของวลีฮิตมากมาย โดยซีซั่นนี้ ขุ่นแม่มาช่า ถึงจะมาช้าแต่วลีเด็ดชัวร์ อย่างการเตือนสติพี่ลูกเกดอย่างแรงส์ว่า ยูวต้อง “แฮฟ สตินะคะ” พร้อมกับท่าดีดนิ้วเพื่อความเริ่ดในการมิกซ์คำไทยและคำอังกฤษได้อย่างลงตัว
ตัวอย่างสถานการณ์ : สามารถใช้ได้เกือบทุกสถานการณ์ เพื่อเตือนเพื่อนที่กำลังอยู่ในสภาวะมึนๆ อ๊องๆ เบลอๆ ทำอะไรก็ดูลุกลน สติด้วยคำว่า “ไอ แฮฟ สติ” เพื่อเรียกสติเพื่อนคนนั้นกลับคืนมา พร้อมทำท่าดีดนิ้วเกร๋ๆ แบบขุ่นแม่ได้เลยค่ะ
อย่าอินเกิน
อีกหนึ่งวลีเด็ดจาก The Face เช่นกัน จากปากพี่มาช่าถึงพี่ลูกเกดอีกแล้วค่ะ ด้วยการเตือนว่า “อย่าอินเกิน” เพราะว่านี่เป็นแค่เกมของเมนเทอร์เท่านั้นนะคะ ไม่ใช่สังเวียนสำหรับมอนสเตอร์
ตัวอย่างสถานการณ์ : ใช้ได้กับการเตือนสติคนที่กำลังอินอะไรซักอย่างแบบบ้าคลั่งจนเกินไป เช่น เพื่อนเราที่โพสต์ดราม่าเมนเทอร์คริส ที่มาแทน เมนเทอร์มาช่าตลอด 24 ชั่วโมงจนเต็ม News Feed ไทม์ไลม์ไปหมด เราควรที่จะเตือนสติของเขาให้ลดระดับความอินลงมาบ้างด้วยคำนี้ได้เลยค่ะ
ค่ะซิส
คำนี้ใครไม่เคยได้ยินอย่างเชยเลยค่ะ ที่มาของคำนี้เป็นการย่อมาจากคำว่า Sister ไว้ใช้เรียกพี่สาว น้องสาว รุ่นน้อง รุ่นพี่ เพื่อนอะไรก็ได้ แต่เรียกให้สั้นลงเริ่ดกว่ากลายเป็นคำว่า “ซิส” ไงละคะซิส
ตัวอย่างสถานการณ์ : เป็นคำที่ใช้สะดวกมากทั้งหญิงแท้ หญิงเทียม สามารถใช้ได้เกือบทุกสถานการณ์ ด้วยการใส่คำว่า “ซิส” ไว้ต่อท้ายประโยค เช่น โอเคค่ะซิส , เป็นกำลังใจให้นะคะซิส , หยิบของอันนี้ให้หน่อยค่ะซิส หรือจะไว้ข้างหน้าก็ได้ เช่น ซิส…อยู่ไหนและคะ , ซิสเริ่ดเว่อร์ ก็ได้ทั้งนั้นค่ะซิส
ว้ายตั่ยแล้ว
เป็นวลีฮิตในซีรี่ส์ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์อีกวลีหนึ่ง ซึ่งเป็นคำอุทานติดปากของมาดามมดในเรื่องที่มักจะทำงานผิดพลาดอยู่เสมอและมักอุทานคำนี้ทุกครั้ง วิธีการออกเสียงคือการออกเสียงคำว่า “ตาย” ให้สั้นลงเป็น “ตั่ย” เพื่อให้ทุกสถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่ ดูซอฟต์ลงทันที
ตัวอย่างสถานการณ์ : สามารถใช้เมื่อเราเจอสถานการณ์ที่เลวร้ายในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เพื่อช่วยทำให้เรื่องซวยๆ นั้นดูซอร์ฟลงทันที คนรอบข้างที่ได้ยินก็สบายใจเพราะคงคิดว่าแหมซวยขนาดนี้ ยังมีเวลาเล่นมุกอีกนะ ช่างเป็นคนมองโลกในแง่บวกเสียนี่กระไร
เฉียบ!
จู่ๆ คำนี้ก็ฮิตเปรี้ยงปร้าง ต้นกำเนิดมาจาก “คุณอู๋ ปริศนาฟ้าแลบ” ทีมงานเบื้องหลังรายการปริศนาฟ้าแลบในตำแหน่งผู้ Control เก้าอี้ล่อฟ้าประจำรายการ ที่มักออกมาเล่นมุกสร้างสีสันให้กับรายการเสมอ และเมื่อมุกไหนโดนใจคนดูฮา คุณอู๋มักจะตบท้ายด้วยการพูดคำว่า “เฉียบ” สื่อแทนคำว่าเจ๋ง เด็ด สุดยอด เฉียบขาด โดนใจ ได้อย่างครบถ้วนในคำเดียว
ตัวอย่างสถานการณ์ : ใช้ได้ทุกสถานการณ์ที่เราจะใช้แทนคำว่า เจ๋ง เด็ด สุดยอด โดนใจ เป๊ะ หรือระหว่างที่เราเล่นมุกฮาในจังหวะที่เฉียบขาด สามารถยกยอตัวเองด้วยการพูดคำว่า “เฉียบ!” ตบท้ายได้เลย
ตะมุตะมิ
ต้นปีนาทีนี้ ไม่ใครคำไหนฮิตแรงเท่าคำว่า “ตะมุตะมิ” อีกแล้ว เมื่อชาวเน็ตนิยามความน่ารัก อ่อนละมุน น่าเอ็นดู ของหน้ากากทุเรียนในรายการ The Mask Singer ว่าช่างน่ารักตะมุตะมิ ซึ่งความหมายไม่มีมากอะไรหรอก แต่พอฟังแล้วมันดูงุงิมุมิดี สมกับเป็นหน้ากากที่คนไทยทั้งประเทศหลงรักทั้งคาแร็กเตอร์และเสียงร้องสุดไพเราะ
ตัวอย่างสถานการณ์ : สามารถใช้เรียกคน สัตว์ สิ่งของ หรืออะไรก็ตามที่ดูน่ารัก น่าเอ็นดูว่า “ตะมุตะมิ” พร้อมดัดเสียงแอ๊บใสแบบเน็ตไอดอลประมาณหนึ่งด้วย จะได้อรรถรสสุดตะมุตะมิมากยิ่งขึ้น
ที่มา : ศัพท์วัยรุ่นฮิตในโลกออนไลน์
ปังมาก = เกิดสุด ๆ อลังการ เลิศ บางครั้งใช้สื่อถึงความถูกใจจนตบโต๊ะดังปัง
สวดยวด = สุดยอด
เว่อร์วัง = เว่อร์
ครัช = ครับ
ตั้ลล้าก = น่ารัก
ข่า = ค่ะ, ค่า
ล้าว = แล้ว
อิจ = อิจฉา
ฟรุ้งฟริ้ง = เปล่งประกาย วิบวับ จรัสแสง
มุ้งมิ้ง = น่ารัก ออดอ้อน
ยิ้มอ่อน = ยิ้มน้อย ๆ แบบเอ็นดู
ยิ้มแรง = ยิ้มกว้างเต็มที่ แบบดีใจ ไม่ปกปิด
มองแรง = มองแบบจิก ๆ เขม้นมอง
พัง = เอ๋อ, เบลอ
จบข่าว = จบ
หนักมาก = มักใช้ต่อท้ายคำบรรยายอารมณ์เพื่อย้ำความรู้สึกให้มากขึ้น
ดี๊ดี = ดี มักใช้ต่อท้ายคำ เช่น ชีวิตดี๊ดี
ผมนี่... = ใช้ได้ในหลายบริบท เช่น ผมนี่ลุกเลย ผมนี่ลั่นเลย ผมนี่เศร้าเลย
ดี๊ดี = ดี มักใช้ต่อท้ายคำ เช่น ชีวิตดี๊ดี
ผมนี่... = ใช้ได้ในหลายบริบท เช่น ผมนี่ลุกเลย ผมนี่ลั่นเลย ผมนี่เศร้าเลย
ดึงสติกันหน่อยน่า = แฮชแท็กสุดฮิต ที่ชาวเน็ตยกมาจากคำพูดของนักแสดงวัยรุ่น
ดีงาม = ดีมาก
ความรักก็เช่นกัน = แฮชแท็กต่อท้ายข้อความในโซเชียลเน็ตเวิร์ก
หล่อจนต้องร้องขอชีวิต = แฮชเท็กสุดฮิตของสาว ๆ เมื่อมีการโพสต์ถึงหนุ่มหล่อ
เอาที่สบายใจ = ใช้ในเชิงประชดกลาย ๆ
วางถุงกาวลงก่อน = มักใช้เมื่อพบข้อความที่ดูเหมือนการคิดเองเออเอง สร้างภาพ
